สัปดาห์ก่อนถ้าใครตามตลาดหุ้นต่างประเทศจะเห็นได้ว่าเริ่มเห็นตลาดหุ้นถูกเทขายทำกำไรจากนักลงทุนสถาบันเรื่องมาจากความกังวลทางด้าน “เงินเฟ้อ” ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาด ซึ่งหลักๆแล้วเป็นผลมาจากการเปิดเมือง ส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเดือนเม.ย. เช่น
ค่าตั๋วเครื่องบิน ปรับตัวขึ้นประมาณ 10.2%
ห้องพักและโรงแรม ปรับตัวขึ้นประมาณ 8.8%
รถยนต์มือสอง ปรับตัวขึ้นประมาณ 10%
ทำให้นักลงทุนจับตาว่า FED จะมีการปรับดอกเบี้ยขึ้นหรือไม่เพือลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจ ส่งผลให้ตลาดหุ้นหลักทั่วโลกเผชิญแรงขายทำกำไรหลังปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ถ้าเราดูจากกราฟจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าอัตราเงินเฟ้อพุ่งอย่างรวดเร็วมาตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2551
ทาง FED ออกมากล่าวถึงประเด็นนี้ว่ายังไม่ได้รีบเร่งขึ้นดอกเบี้ยหรือจะใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัวเร็วๆนี้ เนื่องจากยังต้อง Monitor เงินเฟ้อให้ถึงเป้าหมายที่เฉลี่ย 2% ตามกรอบเวลาที่วางไว้ อีกทั้งยังต้องดูตลาดแรงงานเป็นสำคัญว่าจะฟื้นตัวได้แข็งแกร่งแล้วหรือไม่ ถ้อยแถลงการของ FED ทำให้ตลาดคลายกังวลเริ่มมีการปรับตัวขึ้นได้
… แต่ถ้าเราหันไปดูในฝากของ Safe Heaven อย่าง “ทองคำ” จะเห็นว่าค่อนข้าง Outperform ตลาดเลยทีเดียว
ทองคำน่าสนใจแค่ไหน ?
การขึ้นของทองคำ ทำให้นักวิเคราะห์ของวอลสตรีทเชื่อว่า FED คงจะหนีไม่พ้นในเรื่องของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแน่นอน เพียงแต่วาเมื่อไรเท่านั้นเอง โดยมาจาก 4 ปัจจัยหลัก คือ
- การแจกเงินเข้าไปในระบบอย่างมหาศาลเป็นการกระตุ้นเศรฐกิจหลักวิกฤต COVID-19 ทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้น และครั้งนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ประชาชนได้เงินฟรีของรัฐ แล้วเอาเงินมาซื้อสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นหรือว่าทองคำเก็บเอาไว้
- การพิมพ์เงิน (QE) อย่างต่อเนื่อง
- ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปีนี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก
- การขาดแคลนสินค้าบางอย่าง เช่น ชิปคอมพิวเตอร์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
จากงานวิจัยของ World Gold Council พบว่าปริมาณเงินในระบบความสัมพันธ์กับราคาทองคำอย่างมีนัยสำคัญในทุกช่วงเวลา ดังนั้นการพิมพ์เงินและปัญหาของเงินเฟ้อจะทำให้ทองคำปรับตัวขึ้นอย่างแน่นอน แต่จะขึ้นมากหรือขึ้นน้อยนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งแต่เมื่อมองในระยะยาวทองคำได้รับผลบวกอย่างแน่นอน เนื่องจากนักลงทุนจะหันเข้ามาลงทุนในทองคำเช่นกัน เพราะทองคำเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ป้องกันอัตราเงินเฟ้อได้
ราคาทองคำพุ่งอย่างต่อเนื่องจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ
สรุปแล้วกลับมาที่คำถามว่า เรากังวลอะไรกับปัญหาเงินเฟ้อของสหรัฐ
เพราะว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงมากของสหรัฐ เป็นการกดดันให้ FED ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
… ถ้า FED ปรับขึ้นดอกเบี้ยจริงๆจะทำให้นักลงทุนสถาบันเทขายสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น ไปถือครอง Bond หรือตราสารหนี้มากขึ้น เมื่อบรรยากาศของตลาดหุ้นไม่ดีก็จะส่งผลต่อตลาดหุ้นในฝั่งของเอเชียรวมถึงประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่เราสามารถ “ตั้งรับ” ได้ โดยเฉพาะสินทรัพย์ทางเลือกอย่างทองคำที่จะมีมูลค่าสูงขึ้นเมื่อสหรัฐทำ QE มากขึ้น เงินเฟ้อสูงขึ้น ราคาทองคำก็จะเพิ่มขึ้นป้องกันอัตราเงินเฟ้อได้เป็นอย่างดีนั้นเองครับ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ปรับปรุงหลักเกณฑ์การรับหุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนใน SET ด้วยเกณฑ์มูลค่าหุ้นสามัญตามราคาตลาด (Market Capitalization Test) เพื่อรองรับบริษัทที่มีการประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐตามแผนยุทธศาสตร์ของประเทศ โดยจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2564
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า ตลท.ได้มีการทบทวนและเปิดรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์การรับหุ้นสามัญเพื่อสนับสนุนบริษัทที่ประกอบกิจการในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายและอุตสาหกรรมที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งสอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ของประเทศ